當前位置

首頁 > 語言學習 > 泰語學習 > 疫情下的泰國應屆畢業生,未來到底該何去何從……

疫情下的泰國應屆畢業生,未來到底該何去何從……

推薦人: 來源: 閱讀: 1.93W 次

最近大家應該都看到了,泰國的疫情越來越嚴重,確診人數一天比一天高,難過想哭……疫情之下泰國大學的應屆畢業生究竟該怎麼選擇未來的人生?相信很多小夥伴這兩年也會面臨找工作的問題,你們又是怎麼想的呢?

สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อ คนทำงาน ในทุกประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะ “เด็กจบใหม่” จากที่เคยวาดฝันถึงอนาคตการทำงาน หรือ การไปเรียนต่อกลับพบความจริงที่ว่า ชีวิตที่พ้นรั้วมหาวิทยาลัยแล้วช่างยากกว่าที่คิด อีกทั้งเด็กจำนวนมากต้องแบกรับภาระการค้นหาตัวตน รวมไปถึงความคาดหวังจากครอบครัว สังคม ยิ่งกว่านั้น สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 กลายเป็นอุปสรรคที่คาดไม่ถึงทำให้แผนการสำหรับอนาคตที่วางไว้ รวมถึงจิตใจพังลงไม่เป็นท่า สิ่งเหล่านี้สร้างแรงกดดันอันมหาศาลให้กับชีวิตของเด็กจบใหม่
Covid19大爆發對世界各國的工作者都造成了一定衝擊,特別是對於應屆畢業生而言,他們或是曾經畫下了未來工作的美好藍圖,又或是打算繼續深造,回過頭來卻遇上了這樣的現實:邁出大學圍牆後的生活,現實遠比想象中更難。另外,還有爲數衆多的學生必須擔負起尋找自我的重任,外加對家庭和社會的期望。不止如此,covid19的爆發成爲了意想不到的障礙, 使得人們對未來的設想和心靈世界倒塌得只剩一地碎片,這一系列事件給畢業生的生活帶來了巨大的壓力。

疫情下的泰國應屆畢業生,未來到底該何去何從……



สิ่งที่เด็กจบใหม่ต้องเผชิญ
應屆畢業生必須要面對的事


ปัญหาสุดคลาสสิกที่เด็กจบใหม่เจอคงหนีไม่พ้นการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นวิธีการทำงาน เพื่อนร่วมงาน หัวหน้างาน การพบเจอสิ่งใหม่ๆ คนจากหลากหลายวัยที่มีทัศนคติแตกต่างกัน ทำให้เด็กจบใหม่ต้องเจอกับการปรับตัวครั้งใหญ่ในชีวิต
應屆畢業生遇到的最基本的問題,不外乎是如何調整自我,來適應新的外界環境。不論是工作方法、工作單位的同事和領導,以及在工作中遇到的很多新事物。各個年齡段的人在思想上有區別,因而,應屆畢業生在此時會面臨人生中最大的一次自我調整。

“ไม่ว่าจะยุคไหน คนในสังคมไทยส่วนใหญ่ก็มีปัญหาในการเข้าใจเด็กจบใหม่ ผู้ใหญ่บางคนชอบมองว่าเด็กสมัยนี้ไม่มีความอดทน ทำงานนิดๆหน่อยๆ ก็ลาออก ไม่ได้เงินเดือนที่ต้องการก็ไม่ทำงาน เลือกงาน สุดท้ายก็ไม่ได้หางานอะไร” บัณฑิตจบใหม่จากคณะอักษรศาสตร์คนหนึ่งเริ่มต้นเล่าปัญหา ขณะที่บัณฑิตจากคณะเดียวกันอีกคนหนึ่งเล่าถึงแรงกดดันจากการเรียนจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดังว่า“แม้ผู้ใหญ่จะเข้าใจว่าเราเป็นเด็กจบใหม่ แต่ยังคงรู้สึกกดดัน เพราะเขาก็คาดหวังว่า เราจบจุฬาฯ มา เราต้องทำได้อย่างนี้สิ พอเราทำไม่ได้ เลยรู้สึกกดดันมาก”
文學院的一位畢業生向我們說:“不管是什麼時期,泰國社會的大部分民衆都對畢業生存在着一定程度上的不理解。有些長輩總是認爲這個年代的孩子們缺乏耐性,會因爲工作中一點小事辭職,沒有得到合適的薪水就不幹活,挑三揀四、眼高手低,最後得不到什麼好的工作。”來自同一學院的另一位畢業生,也向我們講述了從名牌大學畢業後面臨的種種壓力:“即使領導理解我們是應屆畢業生,但我們依然感到非常有壓力,因爲他們總是認爲,我們是朱拉隆功大學畢業的,所以說我們什麼都會。當我們無法完成任務的時候就會壓力倍增。”

疫情下的泰國應屆畢業生,未來到底該何去何從…… 第2張



จบมาทำอะไร?
畢業後能從事什麼?

คำถามนี้กลายเป็นสิ่งที่ตอบได้ยากสำหรับเด็กบางกลุ่ม เช่น เด็กอักษรศาสตร์ ที่มีหลักสูตรที่กว้างขวาง ครอบคลุมหลายสาขาวิชาจนสามารถทำงานได้หลากหลาย ไม่มีสายงานที่ตรงตัวอย่างคณะอื่นๆ เช่น เรียนแพทยศาสตร์เพื่อเป็นหมอหรือเรียนครุศาสตร์และเป็นครูเมื่อเรียนจบ ทำให้หลายคนประสบปัญหาในการหางานเช่นกัน
這個問題對於一部分學生來說很難回答,例如文學院的學生,課程範圍較廣,涵蓋了許多學科,可以從事很多類型的工作。而不像別人一樣,專業有着非常對口的工作。例如學醫,是爲了畢業當醫生,學師範是爲了畢業後當老師。這使得許多人在找工作的時候都遇到了問題。

“ด้วยความที่อักษรฯ เรียนกว้างครอบจักรวาล และสายงานกว้าง ทำให้คนที่จบอักษรฯ ส่วนใหญ่ทำงานไม่ตรงสาย ไปเป็นนักแปล ล่าม ครู ซึ่งถ้าเราอยากได้อาชีพที่ให้เงินเดือนมากกว่านี้ เราก็รู้สึกว่างานแค่นี้มันยังไม่พอ เลยต้องออกไปหาทำอาชีพอื่น รู้สึกว่าอักษรประยุกต์ได้หมด แต่มีความเป็นเป็ดอยู่ในตัว พอทำได้ในแต่ละอย่าง แต่ถ้าจะให้ไปเก่งแบบแพทย์ วิศวะ ช่างกล เราทำไม่ได้ อันนี้เราว่ามันเป็นจุดเสียเปรียบที่ใหญ่ที่สุด ตอนแรกที่เข้าไปเราต้องเรียนรู้ทุกอย่างทุกฝ่ายทุกส่วน พยายามเรียนรู้ให้เร็วที่สุดถึงแม้เราจะไม่ได้เรียนแบบเฉพาะทางตรงนั้น” บัณฑิตจากคณะอักษรศาสตร์กล่าว
"由於文學專業的學習範圍較廣,可謂包羅萬象,工作面也相對較寬,讓大部分文學專業相關畢業生都找不到對口的工作,很多人去做翻譯、教師。如果我們想拿到更高的月薪,我們就會感覺到從事這樣的職業是遠遠不夠的,因而必須出去找其他工作。就覺得吧,文學用途廣泛,但有點四不像的意思,在每個方面都能做一點,但如果要像醫生、工程師、機械師在某方面有所精通的話,是做不到的。我認爲這是文學專業最大的弱點,剛入學的時候,我們必須要掌握各方面的知識,全速努力地學習,儘管沒有自己的專長方向。”文學院畢業生這樣說。

疫情下的泰國應屆畢業生,未來到底該何去何從…… 第3張


นอกจากนี้ ด้วยความที่ระบบการศึกษาไทย ไม่ได้เอื้ออำนวยให้เด็กๆ ค้นหาตัวเอง แต่กลับสอนให้เด็กไปในทิศทางเดียวกันหมด ทำให้ปัญหาสุดคลาสสิกที่เด็กจบใหม่เกือบทุกคนจะต้องเจออีกอย่าง คือ “ไม่รู้ว่าตัวเองชอบหรือถนัดงานอะไร”“เราจบสาขาวิศวกรรมนาโน ถ้าตรงกับสายงานจริงๆ คือ การทำวิจัย เราเคยฝึกงานมาสองครั้ง เป็นวิจัยทั้งคู่ ครั้งแรกไม่เท่าไหร่ แต่ครั้งที่สองกลับเริ่มรู้สึกว่างานวิจัยไม่ใช่ทางของตัวเองแล้ว ส่วนตัวเรารู้สึกว่ามันช้า แพลนงานวิจัย ถึงจุดหนึ่งต้องมานั่ง execute งานทดลอง ซึ่งตอน execute มันช้ากว่าจะได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน สิ่งนี้ทำให้เรารู้สึกว่างานวิจัยไม่เหมาะกับตัวเรา เพราะทำให้ความรู้เราแคบ รู้แค่เรื่องวิจัยที่เราทำอย่างเดียว เราเลยตัดสินใจทำงานไม่ตรงสาย ลองทำงาน บริษัทที่ปรึกษาส่วนหนึ่งมาจากการปรึกษารุ่นพี่เพราะมีรุ่นพี่หลายคนทำงานด้านนี้อยู่ และอยากลองทำอะไรที่ไม่เคยทำ จากนั้นค่อยคิดว่าจะเอาอย่างไรต่อ” บัณฑิตจากคณะวิศวกรรมศาสตร์กล่าว
除此之外,在泰國的教育系統之下,不會很偏向讓學生們探索自我,而是讓學生們按照同樣的方向來接受教育,這使得幾乎所有的應屆畢業生都會遇到一個最基本的問題,就是“不知道自己喜好或擅長什麼”。“我是納米工程學院畢業的,如果要選擇真正對口的專業,就是從事科研。我也曾有過兩次實習經歷,都是做研究,第一次實習還沒覺得有什麼,可是在第二次實習中開始感覺到做科研不是自己該走的路,因爲科研讓我覺得很慢,做研究計劃,到某一個點後就得坐下來做實驗,在執行實驗的時候,真的很慢,久久不得一份成果。同時,做研究使得我的知識面變窄,只知道所作的研究相關的東西,所以我覺得做研究不適合自己,選擇轉行,嘗試進入諮詢公司工作,這家公司一部分是由學校裏的前輩組建的,因爲很多學長、學姐都從事這方面的工作。同時我也想嘗試一些未曾試過的工作,之後再慢慢考慮下一步的打算。”工程學院的畢業生向我們說道。

อย่างไรก็ตาม สำหรับสังคมไทย “ค่าตอบแทน” ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกทำงานของเด็กจบใหม่ แต่ในความเป็นจริงคือ ไม่ใช่ทุกคนจะเลือกค่าตอบแทนที่ตรงใจได้ ทำให้ปัญหาเรื่องค่าตอบแทนเป็นสิ่งที่เด็กจบใหม่ต้องเผชิญอยู่ร่ำไป“เงินเดือนน้อย เมื่อเทียบกับค่าครองชีพของไทยที่สูงมาก ซึ่งเงินเดือนแค่ 300 บาทต่อวัน หรือ 15,000 บาท ไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตในประเทศนี้ เรารู้สึกว่ามันส่งผลกระทบต่อเด็กต่างจังหวัด เพราะต่างจังหวัดไม่ได้มีงานเยอะเหมือนกับกรุงเทพฯ แต่หากมาหางานที่กรุงเทพฯ แค่ค่าหอก็ 5,000 บาท แล้ว ขนาดยังไม่รวมค่าน้ำค่าไฟ ที่เหลือต้องประหยัดอย่างมากถึงจะมีเงินเก็บ” บัณฑิตจากคณะอักษรศาสตร์กล่าวถึงเงินเดือนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับค่าครองชีพในเมืองหลวง
無論如何,對於泰國人來說“報酬”是應屆畢業生選擇工作所考慮的一個重要因素。但現實卻是,不是每個人都能獲得與內心預期相符的回報,“報酬”也因此成爲了應屆畢業生必須面對的問題。“和泰國高昂的生活成本相比,月薪的確太低,15000銖,也就是平均每天300銖的工資完全不夠在這個國家生活。我認爲這一問題對外府來的孩子造成了一定影響,因爲外府的工作機會沒有曼谷那麼多。但如果來曼谷工作,僅僅是房租就要5000銖,這還不包括水電費,節餘的月薪必須非常節約才能攢下點錢。”文學院畢業生生提到了與首都高昂生活開銷相比少得可憐的月薪問題。

疫情下的泰國應屆畢業生,未來到底該何去何從…… 第4張


“เงินเดือนน้อยและไม่ยุติธรรมมากๆ เด็กจุฬาฯ ธรรมศาสตร์ ก็ต้องมี bar set มาตรฐาน เราอุตส่าห์เรียนอุตส่าห์ตั้งใจอ่านหนังสือสอบ กว่าจะสอบเข้าได้ กว่าจะเรียนจบ และเราก็รู้สึกว่ามันเป็นการขอเงินเดือนในสิ่งที่ทำได้ ถ้าสมมติเราเรียนไม่จบมหาวิทยาลัย จะไปขอเงินเดือนสูงๆ ก็ไม่ได้ แต่นี่เราเรียนจบในมหาลัยท็อปๆ คือมันมีโอกาสที่จะขอได้ ก็เลยตั้งเอาไว้ ไม่ใช่ว่าแบบตั้งแล้วเป็นไปไม่ได้ก็ไม่ควรตั้ง” บัณฑิตจากคณะอักษรศาสตร์อีกคนกล่าวถึงความไม่สมเหตุสมผลกับการเรียนจบมหาวิทยาลัยดัง พร้อมอธิบายถึงทัศนคติของนายจ้างที่ส่งผลกระทบต่อการประเมินรายได้“นายจ้างหลายคนมองว่าการเรียนภาษา ไวยากรณ์ เป็นเรี่องที่ใครๆ ก็ทำได้ แต่จริงๆ แล้ว เราเรียนวัฒนธรรม การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ พูดอย่างไรให้คนเข้าใจ บางคนเก่งวิศวะ เก่งคอมพิวเตอร์ แต่อาจจะไม่ถนัดด้านการสื่อสารก็มี ไม่อยากให้มองว่าอักษรศาสตร์เทียบสายอื่นไม่ได้ เพียงเพราะเป็นสายที่กว้าง ไม่เฉพาะเจาะจง การมองแบบนี้ทำให้ลดค่าเราลงไป ซึ่งหมายความว่า เงินเดือนที่ลดตามลงไปด้วย”
“月薪少且社會嚴重不公,朱拉、法政的學子都會有一個bar set標準,我們勤奮學習、拼命用功讀書好不容易纔考入名校。在畢業階段,我們會認爲這是爲自己爭取月薪的一個因素,如果我們沒有大學畢業文憑,想要得到很高的月薪,那是不可能的。但我們是名校畢業,所以有機會爲自己爭取。因此就爲自己定下了這一薪金標準,而不是設一個自己根本配不上、夠不着的目標。”另一位文學院學生提到了名校畢業生所面對的不合理情況,還爲我們解釋了僱主的態度對收入評估的影響,“很多僱主認爲學習語言、語法是誰都能做得到的,但實際上,我們學的是文化,是高效地溝通,是如何表達才能使對方理解。有些人在工程學、計算機上很厲害,但他們有的人或許不擅長交流。我不想讓別人覺得文學比不上其他專業,只是因爲它是一個廣義學科,針對性不強,這樣的看法會折損了我們的價值,也就是說,月薪也會跟着降低。”

疫情下的泰國應屆畢業生,未來到底該何去何從…… 第5張

(圖片來源:視覺中國)


ความสูญเสียจากวิกฤตโควิด-19
Covid-19危機造成的損失


โควิด-19 ถือเป็นวิกฤตร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่อเด็กจบใหม่เป็นอย่างมาก นอกจากจะส่งผลกระทบต่อชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย ที่ไม่สามารถเรียนได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากต้องเรียนออนไลน์ ขาดประสบการณ์ด้านการฝึกงาน การทำงาน และอีกมากมาย รวมถึงต้องเผชิญกับปัญหาการหางาน เพราะเศรษฐกิจของประเทศหยุดชะงักจากวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 หลายบริษัทต้องปิดตัวลง หรือไม่สามารถรับเด็กจบใหม่เข้าทำงานเพิ่มได้
此次的Covid-19危機可以說對應屆畢業生造成了非常強烈的衝擊,除了嚴重影響了校園生活,讓學生們不能全心全力地學習,而要上網課,缺少了實習和工作經驗等等,還使他們面臨着找工作上的嚴峻考驗。因爲在Covid-19危機中全國經濟發展基本停滯,許多公司不得不倒閉,或是沒有能力繼續吸納應屆畢業生。

“เพราะสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยไม่ดีขึ้นสักที ชีวิตการเรียนมหาวิทยาลัยช่วงสองปีสุดท้ายก่อนจบหายไปหมด ไม่ได้เรียนที่มหาวิทยาลัย ไม่ได้เจอเพื่อน เรียนออนไลน์ทั้งเหนื่อยและลำบากมาก ตอนแรกรู้สึกกังวลเรื่องการหางาน แต่พอสถานการณ์โควิดรุนแรงขึ้นกลับต้องกังวลเรื่องโควิดมากกว่าค่ะ กังวลว่าคนในครอบครัวจะอยู่รอดไหม พ่อแม่ไปฉีดวัคซีนที่หน่วยงานจัดสรรไว้ให้จะปลอดภัยหรือเปล่า สถานการณ์โควิดในประเทศจะดีขึ้นหรือเปล่า ถ้าหากเรากลับบ้านจะติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการ กลับไปแพร่ใส่คนที่บ้านไหม” บัณฑิตจบใหม่จากคณะอักษรศาสตร์กล่าว
“因爲泰國Covid-19的情況沒有絲毫好轉,最後兩年的大學生活幾乎沒什麼體驗感,沒有在校學習,也沒有見過同學朋友,上網課又累又麻煩。一開始非常擔心找工作的事,但隨着Covid-19愈演愈烈,現在的我反而更擔心疫情,擔憂家裏人能不能挺過去,父母到指定機構接種疫苗後能不能安全無憂,國內疫情是否會好轉,如果我回家的話會不會成爲無症狀感染者,傳染給家人?”文學院應屆畢業生說道。

ด้านบัณฑิตจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ระบุว่า สถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้เธอไม่สามารถฝึกงานก่อนจบการศึกษาได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากไม่ได้ปฏิบัติงานในพื้นที่จริง ทำให้ขาดประสบการณ์การทำงาน ขณะที่บัณฑิตจากคณะอักษรศาสตร์อีกคนเล่าถึงความกังวลของตัวเองว่า“กลัวตกงานมาก เพราะเมื่อมีสถานการณ์โควิดเข้ามา บริษัทเขามีแต่จะคัดคนออก จะมีบริษัทที่ไหนรับคนเพิ่ม หรือต่อให้รับคนเพิ่มเขาก็ไม่พร้อมที่จะให้เงินเดือนที่เราพอใจ อีกทั้งยังต้อง work from home เป็นส่วนใหญ่ ทำให้สภาพแวดล้อมการทำงานกับเพื่อนร่วมงานไม่เต็มที่ ประสบการณ์ที่เราควรจะได้กลับได้น้อยลง”
工程學院畢業生說道:Covid-19疫情使得他沒法在畢業前全心全意地實習,因爲沒有實地操練過,所以在工作方面缺少經驗。與此同時,另一位文學院學生也表達了自己內心的擔憂:“非常害怕失業,因爲在Covid-19來勢洶洶的時候,自己的公司只能裁員,還會有哪家公司再招人?即使再招聘新人也不會給出令人滿意的工資。另外多數時間也是在家辦公,導致不能全身心地投入與同事一同工作的環境中,自己獲得的經驗真的越來越少。 ”

疫情下的泰國應屆畢業生,未來到底該何去何從…… 第6張



อนาคตของเด็กจบใหม่
畢業生的未來


แม้แผนที่วางไว้จะพังลง จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ไม่มีใครคาดคิดแต่สุดท้ายเด็กจบใหม่ทุกคนก็ต้องก้าวข้ามผ่านจุดนี้ไปให้ได้ เมื่อถามถึงแผนในอนาคตของตัวเองนับต่อจากนี้ไป บัณฑิตคนหนึ่งกล่าวว่า“ขอลองกับงานนี้ไปก่อน ลองพยายาม ทุ่มเทดูว่าเราสามารถปรับตัวเข้ากับสายงานนี้ได้ไหม ดูว่าทำงานแล้วเราชอบไหม ประสบความสำเร็จไหม ทำแล้วไม่รู้สึกเครียดหรือกดดันกับงาน ลองทำไปก่อนจากนั้นค่อยมาวางแผนอีกทีว่าจะเอาอย่างไรต่อไป เบื้องต้นแอบคิดว่าอยากจะเรียนต่อ แต่คงไม่ใช่เร็วๆ นี้ อยากลองงานไปก่อนสักปีหนึ่ง”
即使沒有人預料得到的Covid-19讓人們的未來願景轟然倒塌,但最終每位畢業生都必須跨步越過這人生中的臨界點,當我們問起這之後對未來的打算,一位學生告訴我們:“我先試試這份工作,試着加把勁,傾注心血後再看看自己能否適應這類工作,看自己是否喜歡,能否取得成功。如果上班後這份工作沒有讓我焦慮或壓力大,那就先做這個,再從長計議,但我內心還是希望能夠繼續深造,但也許不是現在就能實現,先試着工作一年再說吧。”

疫情下的泰國應屆畢業生,未來到底該何去何從…… 第7張

(圖片來源:視覺中國)

เช่นเดียวกับบัณฑิตคณะอักษรศาสตร์ที่ต้องการลองค้นหาตัวเองจากงานที่ทำไปก่อนเช่นกัน“คงทำกับบริษัทนี้ต่อไป ตอนนี้เราเป็นเด็กจบใหม่ทำงานตามที่เขาสั่ง ในอนาคตเราก็จะค้นพบว่าเราชอบด้านนี้เป็นพิเศษ ด้านนั้นเป็นพิเศษ พอเรารู้แล้วก็จะไปต่อยอดทางด้านนั้น”ในขณะที่ บัณฑิตจากคณะอักษรศาสตร์อีกคนกลับมองว่า อนาคตของตัวเองน่าจะอยู่ที่ต่างประเทศมากกว่า
另一位想從這項工作中尋求自我的文學院學生,也與他的想法基本一致:“我應該也會在這家公司繼續做下去,現在我是應屆畢業生,按部就班地工作,未來我應該會發現自己更喜歡哪方面工作,當我知道自己喜歡什麼之後,便會在那條路上繼續走下去。”還有一位同樣是文學院的學生認爲,自己未來應該更想在國外生活。

“ในอนาคตคงหวังว่าจะย้ายไปอยู่ต่างประเทศ แก้ปัญหาที่ตัวเอง เพราะรู้สึกว่าตอนนี้มืดมน การบริหารของรัฐบาลนี้แย่มากๆ ไม่มีอะไรดีขึ้นเลยไม่ว่าจะทั้งโควิด-19 หรือเศรษฐกิจ จึงคิดว่าย้ายไปอยู่ต่างประเทศง่ายที่สุด ส่วนตัวตอนนี้ก็ศึกษา เตรียมตัวเรื่องภาษาไปเรื่อยๆ หากประเทศเปิดเมื่อไหร่ คงไปต่างประเทศ จะได้มีลู่ทางมากขึ้น” บัณฑิตจากคณะอักษรศาสตร์กล่าวทิ้งท้าย
“未來我希望自己能夠出國,解決自己的問題,因爲感覺到現在前路晦暗,政府的治理能力實在太差,不管是疫情還是經濟都沒有任何起色,所以我覺得移居外國應該是最簡便的方法,我現在也在學習、準備,不斷積累出國所需的語言能力,假如什麼時候開放國家了,我大概率會出國,我去國外之後應該會有更多發展空間。”這位文學院學生最後這樣說。

疫情下的泰國應屆畢業生,未來到底該何去何從…… 第8張

(圖片來源:視覺中國)


在新冠疫情席捲全世界之後,要找工作的小夥伴應該都或多或少感受到了其中的不易,尤其是在泰國疫情如此嚴重的當下,這份調查採訪爲我們說清楚了泰國應屆畢業生的心態,人各有志,希望大家在自己未來的人生道路上都越走越遠~

聲明:本文由滬江泰語編譯整理,素材來自Sanook,未經允許不得轉載。如有不妥,敬請指正。